Saturday, March 8, 2014

มือดีขโมยคุกกี้

คำถามจาก https://brilliant.org/

กำลังอยู่ในช่วงฝึก IQ เตรียมสอบครับ พยายามทำข้อสอบพวกนี้บ่อยๆ แล้วก็พยายามอธิบายให้เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้ความคิดชัดเจนขึ้น อันนี้เป็นตรรกะที่ในเว็บเรียกว่าเป็นหมวด Computer Science ครับ (ตรรกศาสตร์)

Who stole the Cookie?
 เรื่องมีอยู่ว่า ในโถมีคุกกี้อยู่ 19 ชิ้น แต่มีชิ้นนึงที่หายไป.
มาช่า : "นิกกี้ขโมยไปค่ะ"
ร็อบ : "ผมเอาไปเองครับ"
นิกกี้ : "ผมไม่ได้เอาไปนะ"
ถ้ากำหนดให้มีหนึ่งคนที่พูดความจริง ข้อใดต่อไปนี้เป็นความจริงเสมอ

1. มาช่าขโมยคุกกี้
2. นิกกี้ขโมยคุกกี้
3. ร็อบขโมยคุกกี้
4. ร็อบไม่ได้ขโมยคุกกี้

    เฉลย: ตอบ 4.
กำหนดให้มี statement ดังนี้
M = มาช่าขโมยคุกกี้
N = นิกกี้ขโมยคุกกี้
R = ร็อบขโมยคุกกี้

premise มีดังนี้
N, ~N, R  และมี 1 ข้อที่มีค่าเป็นจริง
เนื่องจาก N และ ~N มีค่าตรงข้ามกัน จึงทำให้มี 1 ค่าที่เป็นจริงแน่นอน และ R เป็นเท็จแน่นอน
 ∵ choice 4 ข้อ, M, N, R และ ~R พบว่าเราทราบค่าว่า R เป็นเท็จ

∴ ~R จึงมีค่าเป็นจริงแน่นอน


Tuesday, February 4, 2014

บันทึกเพลนสวอล์กเกอร์ : เทพาสรรค์



   บันทึกเพลนสวอล์กเกอร์ : เทพาสรรค์
   (จากบทความ: A Planeswaler's Guide to Born of the Gods)

ภพภูมิของเธรอส เป็นโลกที่มั่งคั่งไปด้วยตำนานปรัมปรา คำทำนายมากมาย การต่อสู้ห้ำหั่นระหว่างผู้พิชิตผู้เกรียงไกรกับสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงขวัญ และบรรดาทวยเทพที่ใช้ประโยชน์จากปุถุชนผู้บวงสรวงแก่พวกเขา

ภาพโดย Willian Murai

ว่ากันว่าบนเธรอส เมื่อสิ่งมีชีวิตหลับและฝัน พวกเขาจะเดินทางไปสู่นิกซ์ ดินแดนแห่งความฝันในตำนานซึ่งเป็นที่สถิตของปวงเทพ เทพเจ้าจะผสานเข้ากับนิกซ์ หรือท้องฟ้าแห่งเวลากลางคืนเพื่อปรากฏกายแก่เหล่าปุถุชน ทั้งบรรดาของกำนัลและรางวัลจากเทพเจ้าต่างก็มีลักษณะของนิกซ์ปะปนอยู่ด้วย

เหล่านี้คือธรรมชาติของสรรพสิ่งบนเธรอสมาเป็นเวลาหลายสหัสวรรษ จนกระทั่งเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้

พลังอำนาจขั้วใหม่กำลังสั่นคลอนกฎแห่งธรรมชาติของเธรอส ขอบเขตที่กั้นโลกแห่งความจริงกับนิกซ์ออกจากกันถูกบั่นให้บางจนน่าหวั่นใจ อาคมในร่างของสัตว์ร้ายพากันหลั่งไหลเข้าสู่ผืนพิภพของสิ่งมีชีวิต

Xenagos, the Reveler |ภาพโดย Jason Chan 
สมดุลแห่งเทพพังทลาย
เซนากอส ผู้เบื่อหน่ายกับการท่องไปในภพต่างๆเพื่อแสวงหาความพึงพอใจ กลับมายังภพกำเนิดพร้อมกับความทะเยอทะยานที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือการเป็นเทพเจ้าแห่งงานรื่นเริง

ในการแสวงหาพลังอำนาจเพื่อสถาปนาตัวเองเป็นเทพเจ้า เซนากอสต้องประกอบพิธีอาคมอันหลากหลาย โดยพิธีกรรมเหล่านี้มีผลกระทบที่คาดไม่ถึง นั่นคือการพร่าเลือนของเส้นแบ่งระหว่างดินแดนของเทพเจ้าและบรรดาสิ่งมีชีวิตในภพ สิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยแต่ในนิกซ์เริ่มปรากฎขึ้นในโลกของปุถุชน สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากถิ่นของเทพเจ้าเหล่านี้ถูกเรียกว่า "
นิกซ์บอร์น" (Nyxborn)

เหล่าทวยเทพผู้ไม่รู้ถึงแผนการสถาปนาตนเองของเซนากอซ แต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดประหลาดไปจากปกติ ยิ่งนิกซ์บอร์นปรากฏขึ้นในโลกมากขึ้น เหล่าเทพเจ้าก็ยิ่งกล่าวหากันเองว่าเป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายนี้ และยิ่งพวกเขาโมโหร้ายขึ้น ก็ส่งนิกซ์บอร์นที่ดุร้ายลงมายังโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้นกัน

เธรอสกำลังอยู่ในวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในที่สุดบรรดาเทพเจ้าก็เริ่มเป็นปฏิปักษ์กับเหล่ามนุษย์ แม้แต่ในเมืองใหญ่ก็ยังไม่ปลอดภัยจากสัตว์ประหลาดทั้งหลาย ทั้งภพของเธรอสกำลังเข้าใกล้ความพินาศ เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว!

Art by Chris Rahn

เมื่อ "ชีวิต" ถูกรุกราน

แม้เทพเจ้าแห่งเธรอสจะเป็นผู้ทรงอัศจรรย์ พวกเขาต่างก็มีใจที่คับแคบ หวาดระแวง และรวนเร เช่นโมกิส เทพเจ้าแห่งการฆ่าฟันผู้นิยมชมชอบและกระหายสงครามในโลกมนุษย์อยู่เสมอ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำเขาโกรธเกรี้ยวกว่าเทพเจ้าองค์อื่นๆ ความบาดหมางระหว่างมนุษย์และมิโนทอร์ ที่โมกิสคอยให้ท้ายก็ยิ่งรุนแรงขึ้น โมกิสเปิดฉากสงครามด้วยการส่งฝูงมิโนทอร์ ทั้งจากโลกมนุษย์และจากนิกซ์เข้าโจมตีเมืองต่างๆของมนุษย์ โดยเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือนคร อาโครส ซึ่งบูชาเทพอิโรอาส ผู้เป็นพี่ชายและศัตรูคู่แค้นของโมกิส

ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งมีชีวิตอื่นๆยังเข้าร่วมกองทัพกับโมกิส และประกาศจะล้างอารยธรรมให้หมดไปจากภพนี้ด้วย

เอลสเปธ ทิเรล นำทัพผู้กล้าจากเมืองใหญ่ทั้งสามของมนุษย์ อาโครส เมเลทิส และเซเทสซา เพื่อสกัดการรุกรานของเหล่ามิโนทอร์ที่อาโครสได้สำเร็จ แต่ด้วยความเสียหายที่เหลือประมาณ ไม่เพียงเท่านั้น งานฉลองชัยจากสงคราม กลับกลายเป็นพิธีกรรมสุดท้ายที่ทำให้แผนการของเซนากอสสำเร็จและส่งเขาขึ้นไปยังนิกซ์เพื่อเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่

ผู้คนต่างโทษว่าเหตุการณ์นี้เป็นความผิดของเอลสเปธ และเนรเทศเธอออกจากนครไปเพียงลำพัง ผู้กล้าแห่งดวงตะวันผู้เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ได้ถูกขับไล่ไสส่งไปอย่างน่าอับอาย
ท่ามกลางการโหมโจมตีทั้งสองฝั่ง จากโมกิสผู้เกรี้ยวกราดและพิธีกรรมของเซนากอส เหล่านครแห่งเธรอสต้องพยายามต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี มนุษย์ได้เริ่มการฝึกและใช้นิกซ์บอร์นในการสงคราม แม้การใช้พลังอาคมของนิกซ์ต่อกรกับเทพเจ้าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่อันตรายต่อการคงอยู่ของภพนี้ก็ตาม

Art by Peter Mohrbacher 
ทวยเทพระส่ำระสาย
 
"งานฉลอง" ที่เทพเจ้าองค์ใหม่สร้างขึ้นกำลังสุกงอม การทำลายล้างอันบ้าคลั่งแพร่กระจายและทำลายทั้งสิ่งมีชีวิตและนิกซ์บอร์นไปทั่วเธรอสอย่างกว้างขวางเกินที่จะหยุดยั้ง เหล่าพยากรณ์ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความพินาศ ในขณะที่มนุษย์ทำได้เพียงอ้อนวอนต่อเทพเจ้าผู้อุปถัมภ์นครของพวกเขา เพื่อหวังจะปัดเป่าโทสะแห่งเทพได้

Art by Jason Chan

เมื่อสิ่งมีชีวิตเบื้องล่างสามารถทะยานขึ้นมาสู่นิกซ์และฝ่าเข้ามาในวงเทพได้ เหล่าเทพเจ้าต่างได้รับรู้ความจริงที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจับใจ พวกเขาถูกบังคับให้เผชิญความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้สรรค์สร้างโลกนี้ หากแต่เป็นสิ่งที่โลกนี้สร้างขึ้นมาเท่านั้น เป็นความจริงที่บรรดาเทพเจ้าไม่อาจยอมให้สรรพชีวิตล่วงรู้ได้ เพราะกลัวที่อำนาจเหนือสรรพชีวิตทั้งหลายจะสิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม ทวยเทพไม่อาจฆ่าฟันหรือเสกสรรค์เทพเจ้าด้วยกันได้ ดังนั้นแม้เทพเจ้าองค์อื่นๆจะเดียดฉันท์การบุกรุกของเซนากอส แต่ก็ไม่มีใครในเธรอสหรือเทพเจ้าองค์ไหนสามารถขับไล่เขาออกจากวงเทพได้

เทพเจ้าแห่งดวงตะวัน ฮีลิออด ผู้อภิบาลความยุติธรรมรู้สึกถึงความจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพของภพภูมินี้ เขาได้เริ่มตระเตรียมหนทางเพื่อฟื้นฟูสมดุลของธรรมชาติ ถึงแม้จะเป็นทางที่ยากลำบาก และต้องมีผู้เสียสละจำนวนมากก็ตาม

ประวัติเพลนสวอล์กเกอร์:  คิโอรา ผู้มากับคลื่นกระหน่ำ (Kiora, the Crashing Wave)


คิโอรา ผู้เป็นชาวเงือก (Merfolk) จากภพเซนดิการ์ได้ออกเดินทางเพื่อฝึกฝนเวทย์มนตร์แห่งมหาสมุทร มาตุภพของเธอถูกรุกรานโดยฝูงยักษ์เอลดราซี (Eldrazi) และเธอเชื่อว่ามีเพียงกำลังของคราเคน งูยักษ์และสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะเหล่ายักษ์ที่ยึดครองเซนดิการ์อยู่ในขณะนี้ได้ และเธอตั้งใจค้นหาพลังดังกล่าวมากเสียจนไม่สนใจผลกระทบที่เกิดกับสิ่งอื่นรอบตัวเธอเลย

คิโอราเดินทางมายังเธรอสเพื่อค้นหาสัตว์ทะเลที่ยิ่งใหญ่ในภพนี้ หลังจากมาถึงได้ไม่นาน เธอก็เรียกคลื่นขนาดมหึมาซึดเข้าใส่ชายหาดของนครเมเลทิสเพื่อเรียกสัตว์ทะเลทั้งหลาย ซึ่งได้สร้างความเสียหายกับเมืองอย่างร้ายแรง และพลังของเธอยังเรียกความสนใจจากเหล่าไทรตัน (Triton) ผู้เป็นชาวเงือกเจ้าถิ่นของเธรอส เมื่อพวกเขาออกตามหาต้นตอของพลังนั้น พวกเขาก็ได้พบกับคิโอรา ขณะที่เธอขี่ลิเวียธานเป็นพาหนะ

ไทรตันบางตนเชื่อว่าคิโอราเป็นจุติหรือผู้นำสาส์นจากแธสซา ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ซึ่งคิโอราก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปเปล่าๆ และกลับชอบใจที่ได้รับความสนใจด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม เทพีแห่งท้องทะเลอาจไม่โปรดนัก ถ้าหากคิโอรายังคงแย่งชิงการสักการะที่สมควรเป็นของเธอต่อไป

ในชุด Born of the Gods นี้ได้มีการเพิ่มจำนวนเทพเข้ามาอีก 4 องค์นอกจากเซนากอซ


เอฟารา เทพีแห่งนคร

เอฟารา เป็นเทพเจ้าแห่งนครและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เอฟาราเป็นตัวแทนและได้รับการบูชาโดยรัฐทั้งหลายที่ก่อตั้งโดยมนุษย์ หากจะต้องเจาะจงขึ้น ผู้คนในนครเมเลทิสจะนับถือเธอมากที่สุด นอกจากนี้แล้ว เอฟารายังเป็นเทพเจ้าแห่งอุตสาหกรรม ภูมิปัญญา ปรัชญา ศิลปะ สถาปัตยกรรม ศาสนา ความก้าวหน้า และเป็นเทพผู้พิทักษ์ไว้ซึ่งความมั่นคงของเมืองอีกด้วย ผู้คนเชื่อว่าบารมีของเธอช่วยปกป้องเมืองจากภยันตรายในป่า

ทุกครั้งที่มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ ไม่ว่าจากก้อนดินหรือหินผา ผู้คนมักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปพักตร์ของเอฟารากำกับไว้ด้วยเสมอ


Ephara, God of the Polis | Art by Eric Deschamps


Ephara's Warden | Art by Zack Stella

คาราเมตรา เทพีแห่งผืนดิน

คารา เมตราเป็นเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว ผืนดิน และการปกปักษ์รักษา เธอเป็นเทพเจ้าที่ทรงปัญญา รักสงบ และให้ความสำคัญกับการคบค้าสมาคม ความมั่นคง และสมดุลแห่งธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นเทพเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับนครเซเทสซามาก ซึ่งผู้คนในนั้นก็บูชาเธอเช่นกัน

นอกจากนี้ คาราเมตรายังเป็นเทพเจ้าแห่งมาตุลักษณ์ ครอบครัวและเด็กกำพร้า การปศุสัตว์และกสิกรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ใช่ผู้นิยมอหิงสา เธอปกครองและบัญชาการในการปกป้องอาณาเขตของเธอด้วย


Karametra, God of Harvests | Art by Eric Deschamps


Karametra's Acolyte | Art by Chase Stone

โมกิส เทพแห่งการฆ่าฟัน

โม กิส แฝดผู้ชั่วร้ายของเทพเจ้าอิโรอาส ถูกขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งโทสะและความเจ็บปวด ถึงแม้โมกิสและฝาแฝดของเขาจะปกครองเมืองผู้ชาญสงครามเหมือนกัน โมกิสแตกต่างจากแฝดของเขาซึ่งยืนหยัดในเกียรติภูมิแห่งชับชนะมาก โมกิสชื่นชมยินดีในความพินาศย่อยยับของศัตรูเท่านั้น และดื่มด่ำกับความหวาดกลัวของเหยื่อผู้รอดชีวิตจากสงคราม สำหรับโมกิสแล้ว ทรัพย์ศฤงคารจากสงครามไม่สำคัญเท่าการได้เห็น ความเจ็บปวด การแก้แค้น ความโหดเหี้ยม และการยึดครอง

เขามีผู้นับถือบูชาเป็นจำนวนมาก


Mogis, God of Slaughter | Art by Peter Mohrbacher


Mogis's Marauder | Art by Chase Stone

เฟแน็กซ์ เทพแห่งกลลวง

เฟแน็กซ์ เป็นเทพเจ้าแห่งความฉ้อฉลและกลเล่ห์เพทุบาย เขาเป็นผู้อุปถัมภ์การพนัน การหลอกลวง การแปรพักตร์หักหลัง ความโดดเดี่ยว แผนการ และความลับ ผู้ที่บูชาเขามักจะเป็นอาชญากร หรือผู้ที่ต้องการหาทางเลี่ยงจากกฎเกณฑ์ต่างๆ


Phenax, God of Deception | Art by Ryan Barger


Disciple of Phenax | Art by John Severin Brassell


Thursday, January 9, 2014

ตำไทย ตำลาว

สารคดีประจำวันที่ 8 ม.ค.

วันนี้เลือกเรื่องตำไทย / ตำลาวมาดู
เนื้อหาในคลิปวิดีโอส่วนมากเป็นการสัมภาษณ์ป้าลี (ลูกค้าเรียกว่าป้าคนสวย)

ป้าลีหน้ากล้องเป็นคุณป้าตัวกลมที่ยิ้มแย้ม พูดจาสนุกสนานและดูอบอุ่น ชอบเวลาที่คุณป้าบรรยายถึงลูกค้าแต่ละประเภทว่าคนลักษณะแบบไหนชอบกินอาหารแบบไหน

ร้านที่ป้าลีขายอยู่นี่มีประวัติมานาน เป็นร้านส้มตำแผงลอยร้านหนึ่งที่ตีนสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ป้าลีหอบผ้าหอบผ่อนตั้งใจจะเลิกกับสามีแล้วหนีมาขายอาหารที่กรุงเทพ แต่พอได้ที่ขายแกก็เกิดคิดถึงลุงขึ้นมา ก็เลยรีบนั่งแท็กซี่กลับไปตามหาลุงให้มาขายด้วยกัน

ป้าลีบอกว่า คนไทยกินไม่เผ็ดเลยถ้าเทียบกับคนอีสาน (ป้าลีแกเรียกคนกรุงเทพว่าคนไทย) คนไทยสั่งเผ็ด ป้าลีจะใส่พริกห้าเม็ด ซึ่งจากปากคำของป้าลี ถ้าเป็นคนอีสาน ห้าเม็ดนี่เรียกว่าไม่เผ็ด เวลาปรุงป้าก็ต้องคอยดูหน้าคนสั่งด้วย ถ้าหน้าจืดๆมานี่ป้าก็จะไม่ตำให้เผ็ดมาก ไม่รู้จะเรียกว่าใส่ใจลูกค้า หรือเรียกว่าตัดสินคนจากหน้าตาดี :/

ทีนี้ในเมื่อเผ็ดของคนไทยกับเผ็ดอีสานมันไม่เท่าเทียมเสมอภาคกัน เราจะทำยังไงถ้าอยากกินของเผ็ดออริจินัลล่ะ? ป้าลีให้โค้ดลับไว้คือ ตำสุดขอบฟ้า แปลว่า ตำไปเลยป้า! เอาให้หูดับตับไหม้ไตช้ำม้ามน่วมส้วมลุกเป็นไฟร์ร์

ยกตัวอย่างการใช้งาน เช่น:

    หมวยหน้าจืด :  "ป้าคะ เอาตำไทยใส่ปูถุงนึง ตำสุดขอบฟ้าเลยป้า อย่าดูหน้าหนู"
    ป้าลี(คนสวย) :  "แซ่บเลยนะ"
    หมวยหน้าจืด :  "อู๊ย แซ่บไปสิบริกเตอร์เลยป้า ข่อยบ่ยั่น"


ป้าเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนอีสานที่มาซื้อของ การได้กินของเหมือนที่บ้านนี่มันทำให้หายคิดถึงนะ เรานึกถึงตอนที่ไปอยู่เมืองนอกนานๆ ก็มีอาหารไทยเนี่ยแหละที่พอจะประทังใจไปได้ ถึงจะไม่บ่อยก็โอเค เพื่อนผมบางคนชอบบ่นว่าคิดถึงอาหารฝีมือแม่ คงนับว่าเป็นโชคดีของผมที่แม่ผมไม่ค่อยทำกับข้าว เลยกินอะไรก็หายคิดถึงล่ะมั้ง.. :D