บันทึกเพลนสวอล์กเกอร์ : เทพาสรรค์
(จากบทความ: A Planeswaler's Guide to Born of the Gods)
ภพภูมิของเธรอส
เป็นโลกที่มั่งคั่งไปด้วยตำนานปรัมปรา คำทำนายมากมาย
การต่อสู้ห้ำหั่นระหว่างผู้พิชิตผู้เกรียงไกรกับสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงขวัญ
และบรรดาทวยเทพที่ใช้ประโยชน์จากปุถุชนผู้บวงสรวงแก่พวกเขา
ว่ากันว่าบนเธรอส เมื่อสิ่งมีชีวิตหลับและฝัน
พวกเขาจะเดินทางไปสู่นิกซ์
ดินแดนแห่งความฝันในตำนานซึ่งเป็นที่สถิตของปวงเทพ เทพเจ้าจะผสานเข้ากับนิกซ์
หรือท้องฟ้าแห่งเวลากลางคืนเพื่อปรากฏกายแก่เหล่าปุถุชน
ทั้งบรรดาของกำนัลและรางวัลจากเทพเจ้าต่างก็มีลักษณะของนิกซ์ปะปนอยู่ด้วย
เหล่านี้คือธรรมชาติของสรรพสิ่งบนเธรอสมาเป็นเวลาหลายสหัสวรรษ
จนกระทั่งเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้
พลังอำนาจขั้วใหม่กำลังสั่นคลอนกฎแห่งธรรมชาติของเธรอส
ขอบเขตที่กั้นโลกแห่งความจริงกับนิกซ์ออกจากกันถูกบั่นให้บางจนน่าหวั่นใจ
อาคมในร่างของสัตว์ร้ายพากันหลั่งไหลเข้าสู่ผืนพิภพของสิ่งมีชีวิต
สมดุลแห่งเทพพังทลาย
เซนากอส
ผู้เบื่อหน่ายกับการท่องไปในภพต่างๆเพื่อแสวงหาความพึงพอใจ
กลับมายังภพกำเนิดพร้อมกับความทะเยอทะยานที่ไม่เคยมีมาก่อน
นั่นคือการเป็นเทพเจ้าแห่งงานรื่นเริง
ในการแสวงหาพลังอำนาจเพื่อสถาปนาตัวเองเป็นเทพเจ้า
เซนากอสต้องประกอบพิธีอาคมอันหลากหลาย โดยพิธีกรรมเหล่านี้มีผลกระทบที่คาดไม่ถึง
นั่นคือการพร่าเลือนของเส้นแบ่งระหว่างดินแดนของเทพเจ้าและบรรดาสิ่งมีชีวิตในภพ
สิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยแต่ในนิกซ์เริ่มปรากฎขึ้นในโลกของปุถุชน
สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากถิ่นของเทพเจ้าเหล่านี้ถูกเรียกว่า "นิกซ์บอร์น" (Nyxborn)
เหล่าทวยเทพผู้ไม่รู้ถึงแผนการสถาปนาตนเองของเซนากอซ
แต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดประหลาดไปจากปกติ
ยิ่งนิกซ์บอร์นปรากฏขึ้นในโลกมากขึ้น
เหล่าเทพเจ้าก็ยิ่งกล่าวหากันเองว่าเป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายนี้
และยิ่งพวกเขาโมโหร้ายขึ้น ก็ส่งนิกซ์บอร์นที่ดุร้ายลงมายังโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้นกัน
เธรอสกำลังอยู่ในวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในที่สุดบรรดาเทพเจ้าก็เริ่มเป็นปฏิปักษ์กับเหล่ามนุษย์
แม้แต่ในเมืองใหญ่ก็ยังไม่ปลอดภัยจากสัตว์ประหลาดทั้งหลาย
ทั้งภพของเธรอสกำลังเข้าใกล้ความพินาศ เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว!
เมื่อ "ชีวิต" ถูกรุกราน
แม้เทพเจ้าแห่งเธรอสจะเป็นผู้ทรงอัศจรรย์
พวกเขาต่างก็มีใจที่คับแคบ หวาดระแวง และรวนเร เช่นโมกิส
เทพเจ้าแห่งการฆ่าฟันผู้นิยมชมชอบและกระหายสงครามในโลกมนุษย์อยู่เสมอ
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำเขาโกรธเกรี้ยวกว่าเทพเจ้าองค์อื่นๆ
ความบาดหมางระหว่างมนุษย์และมิโนทอร์ ที่โมกิสคอยให้ท้ายก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
โมกิสเปิดฉากสงครามด้วยการส่งฝูงมิโนทอร์
ทั้งจากโลกมนุษย์และจากนิกซ์เข้าโจมตีเมืองต่างๆของมนุษย์
โดยเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือนคร อาโครส ซึ่งบูชาเทพอิโรอาส
ผู้เป็นพี่ชายและศัตรูคู่แค้นของโมกิส
ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งมีชีวิตอื่นๆยังเข้าร่วมกองทัพกับโมกิส
และประกาศจะล้างอารยธรรมให้หมดไปจากภพนี้ด้วย
เอลสเปธ ทิเรล
นำทัพผู้กล้าจากเมืองใหญ่ทั้งสามของมนุษย์ อาโครส เมเลทิส และเซเทสซา
เพื่อสกัดการรุกรานของเหล่ามิโนทอร์ที่อาโครสได้สำเร็จ
แต่ด้วยความเสียหายที่เหลือประมาณ ไม่เพียงเท่านั้น งานฉลองชัยจากสงคราม
กลับกลายเป็นพิธีกรรมสุดท้ายที่ทำให้แผนการของเซนากอสสำเร็จและส่งเขาขึ้นไปยังนิกซ์เพื่อเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่
ผู้คนต่างโทษว่าเหตุการณ์นี้เป็นความผิดของเอลสเปธ
และเนรเทศเธอออกจากนครไปเพียงลำพัง
ผู้กล้าแห่งดวงตะวันผู้เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ได้ถูกขับไล่ไสส่งไปอย่างน่าอับอาย
ท่ามกลางการโหมโจมตีทั้งสองฝั่ง
จากโมกิสผู้เกรี้ยวกราดและพิธีกรรมของเซนากอส
เหล่านครแห่งเธรอสต้องพยายามต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี
มนุษย์ได้เริ่มการฝึกและใช้นิกซ์บอร์นในการสงคราม
แม้การใช้พลังอาคมของนิกซ์ต่อกรกับเทพเจ้าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่อันตรายต่อการคงอยู่ของภพนี้ก็ตาม
ทวยเทพระส่ำระสาย
"งานฉลอง"
ที่เทพเจ้าองค์ใหม่สร้างขึ้นกำลังสุกงอม
การทำลายล้างอันบ้าคลั่งแพร่กระจายและทำลายทั้งสิ่งมีชีวิตและนิกซ์บอร์นไปทั่วเธรอสอย่างกว้างขวางเกินที่จะหยุดยั้ง
เหล่าพยากรณ์ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความพินาศ
ในขณะที่มนุษย์ทำได้เพียงอ้อนวอนต่อเทพเจ้าผู้อุปถัมภ์นครของพวกเขา
เพื่อหวังจะปัดเป่าโทสะแห่งเทพได้
เมื่อสิ่งมีชีวิตเบื้องล่างสามารถทะยานขึ้นมาสู่นิกซ์และฝ่าเข้ามาในวงเทพได้
เหล่าเทพเจ้าต่างได้รับรู้ความจริงที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจับใจ
พวกเขาถูกบังคับให้เผชิญความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้สรรค์สร้างโลกนี้ หากแต่เป็นสิ่งที่โลกนี้สร้างขึ้นมาเท่านั้น
เป็นความจริงที่บรรดาเทพเจ้าไม่อาจยอมให้สรรพชีวิตล่วงรู้ได้
เพราะกลัวที่อำนาจเหนือสรรพชีวิตทั้งหลายจะสิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตาม
ทวยเทพไม่อาจฆ่าฟันหรือเสกสรรค์เทพเจ้าด้วยกันได้
ดังนั้นแม้เทพเจ้าองค์อื่นๆจะเดียดฉันท์การบุกรุกของเซนากอส
แต่ก็ไม่มีใครในเธรอสหรือเทพเจ้าองค์ไหนสามารถขับไล่เขาออกจากวงเทพได้
เทพเจ้าแห่งดวงตะวัน
ฮีลิออด
ผู้อภิบาลความยุติธรรมรู้สึกถึงความจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพของภพภูมินี้
เขาได้เริ่มตระเตรียมหนทางเพื่อฟื้นฟูสมดุลของธรรมชาติ ถึงแม้จะเป็นทางที่ยากลำบาก
และต้องมีผู้เสียสละจำนวนมากก็ตาม
ประวัติเพลนสวอล์กเกอร์: คิโอรา ผู้มากับคลื่นกระหน่ำ (Kiora, the Crashing
Wave)
คิโอรา
ผู้เป็นชาวเงือก (Merfolk) จากภพเซนดิการ์ได้ออกเดินทางเพื่อฝึกฝนเวทย์มนตร์แห่งมหาสมุทร
มาตุภพของเธอถูกรุกรานโดยฝูงยักษ์เอลดราซี (Eldrazi) และเธอเชื่อว่ามีเพียงกำลังของคราเคน
งูยักษ์และสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะเหล่ายักษ์ที่ยึดครองเซนดิการ์อยู่ในขณะนี้ได้
และเธอตั้งใจค้นหาพลังดังกล่าวมากเสียจนไม่สนใจผลกระทบที่เกิดกับสิ่งอื่นรอบตัวเธอเลย
คิโอราเดินทางมายังเธรอสเพื่อค้นหาสัตว์ทะเลที่ยิ่งใหญ่ในภพนี้
หลังจากมาถึงได้ไม่นาน
เธอก็เรียกคลื่นขนาดมหึมาซึดเข้าใส่ชายหาดของนครเมเลทิสเพื่อเรียกสัตว์ทะเลทั้งหลาย
ซึ่งได้สร้างความเสียหายกับเมืองอย่างร้ายแรง
และพลังของเธอยังเรียกความสนใจจากเหล่าไทรตัน (Triton) ผู้เป็นชาวเงือกเจ้าถิ่นของเธรอส เมื่อพวกเขาออกตามหาต้นตอของพลังนั้น
พวกเขาก็ได้พบกับคิโอรา ขณะที่เธอขี่ลิเวียธานเป็นพาหนะ
ไทรตันบางตนเชื่อว่าคิโอราเป็นจุติหรือผู้นำสาส์นจากแธสซา
ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ซึ่งคิโอราก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปเปล่าๆ
และกลับชอบใจที่ได้รับความสนใจด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เทพีแห่งท้องทะเลอาจไม่โปรดนัก
ถ้าหากคิโอรายังคงแย่งชิงการสักการะที่สมควรเป็นของเธอต่อไป
ในชุด Born of the Gods นี้ได้มีการเพิ่มจำนวนเทพเข้ามาอีก 4 องค์นอกจากเซนากอซ
เอฟารา เทพีแห่งนคร
เอฟารา
เป็นเทพเจ้าแห่งนครและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
เอฟาราเป็นตัวแทนและได้รับการบูชาโดยรัฐทั้งหลายที่ก่อตั้งโดยมนุษย์
หากจะต้องเจาะจงขึ้น ผู้คนในนครเมเลทิสจะนับถือเธอมากที่สุด นอกจากนี้แล้ว
เอฟารายังเป็นเทพเจ้าแห่งอุตสาหกรรม ภูมิปัญญา ปรัชญา ศิลปะ สถาปัตยกรรม
ศาสนา ความก้าวหน้า และเป็นเทพผู้พิทักษ์ไว้ซึ่งความมั่นคงของเมืองอีกด้วย
ผู้คนเชื่อว่าบารมีของเธอช่วยปกป้องเมืองจากภยันตรายในป่า
ทุกครั้งที่มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ ไม่ว่าจากก้อนดินหรือหินผา ผู้คนมักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปพักตร์ของเอฟารากำกับไว้ด้วยเสมอ
Ephara, God of the Polis | Art by Eric Deschamps
Ephara's Warden | Art by Zack Stella
คาราเมตรา เทพีแห่งผืนดิน
คารา
เมตราเป็นเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว ผืนดิน และการปกปักษ์รักษา
เธอเป็นเทพเจ้าที่ทรงปัญญา รักสงบ และให้ความสำคัญกับการคบค้าสมาคม
ความมั่นคง และสมดุลแห่งธรรมชาติ
ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นเทพเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับนครเซเทสซามาก
ซึ่งผู้คนในนั้นก็บูชาเธอเช่นกัน
นอกจากนี้
คาราเมตรายังเป็นเทพเจ้าแห่งมาตุลักษณ์ ครอบครัวและเด็กกำพร้า
การปศุสัตว์และกสิกรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ใช่ผู้นิยมอหิงสา
เธอปกครองและบัญชาการในการปกป้องอาณาเขตของเธอด้วย
Karametra, God of Harvests | Art by Eric Deschamps
Karametra's Acolyte | Art by Chase Stone
โมกิส เทพแห่งการฆ่าฟัน
โม
กิส แฝดผู้ชั่วร้ายของเทพเจ้าอิโรอาส
ถูกขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งโทสะและความเจ็บปวด
ถึงแม้โมกิสและฝาแฝดของเขาจะปกครองเมืองผู้ชาญสงครามเหมือนกัน
โมกิสแตกต่างจากแฝดของเขาซึ่งยืนหยัดในเกียรติภูมิแห่งชับชนะมาก
โมกิสชื่นชมยินดีในความพินาศย่อยยับของศัตรูเท่านั้น
และดื่มด่ำกับความหวาดกลัวของเหยื่อผู้รอดชีวิตจากสงคราม สำหรับโมกิสแล้ว
ทรัพย์ศฤงคารจากสงครามไม่สำคัญเท่าการได้เห็น ความเจ็บปวด การแก้แค้น
ความโหดเหี้ยม และการยึดครอง
เขามีผู้นับถือบูชาเป็นจำนวนมาก
Mogis, God of Slaughter | Art by Peter Mohrbacher
Mogis's Marauder | Art by Chase Stone
เฟแน็กซ์ เทพแห่งกลลวง
เฟแน็กซ์
เป็นเทพเจ้าแห่งความฉ้อฉลและกลเล่ห์เพทุบาย เขาเป็นผู้อุปถัมภ์การพนัน
การหลอกลวง การแปรพักตร์หักหลัง ความโดดเดี่ยว แผนการ และความลับ
ผู้ที่บูชาเขามักจะเป็นอาชญากร
หรือผู้ที่ต้องการหาทางเลี่ยงจากกฎเกณฑ์ต่างๆ
Phenax, God of Deception | Art by Ryan Barger
Disciple of Phenax | Art by John Severin Brassell